การบำรุงรักษาแบตเตอรี่เพื่อยืดอายุการใช้งาน

การป้องกันง่ายๆเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้แบตเตอรี่เสียหายรุนแรงและลดภาระค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนหรือซ่อมแซม ทำได้โดยเพียงแค่รักษาแบตเตอรี่ให้อยู่ในสภาพที่ดี และเมื่อพบจุดเสียหายหรือบกพร่องต้องรีบแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องทราบและแก้ไขทันที.

  • เพียงแค่สะพานไฟหรือสายไฟเสื่อมเพียงจุดเดียวสามารถส่งผลให้เกิดการดึงกระแสไฟจากแบตเตอรี่ที่สูงผิดปกติ
  • ความสกปรกและเปียกชื้น บนเปลือกแบตเตอรี่จะทำให้มีไฟรั่วออกจากแบตเตอรี่มากผิดปกติ.
  • การเติมน้ำกลั่นเกินหกล้นจะทำให้ความจุของแบตเตอรี่ลดลงและถังแบตเตอรี่ผุกร่อน.
  • ระดับน้ำในแบตเตอรี่ต่ำเกินไปหรือแห้งจะส่งผลให้เกิดขี้เกลือซัลเฟตบนแผ่นธาตุและทำให้แบตเตอรี่เสียหายรุนแรง

ปัญหาทั้งหมดสามารถป้องกันได้เพียงใช้เวลาเพียงวันละไม่กี่นาทีดูแลและสังเกตุแบตเตอรี่และควรแก้ไขจุดบกพร่องทันทีที่ตรวจพบจะทำให้อายุการใช้งานของแบตเตอรี่ยาวนานขึ้น
คำแนะนำต่อไปนี้เป็นการดูแลแบตเตอรี่ที่ควรทำเป็นประจำวัน ประจำสัปดาห์ และเดือน

การปฎิบัติงานประจำวัน
ช่วงเช้าหรือเมื่อเริ่มใช้รถ

ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่ชาร์จไฟเต็มหรือยัง ไฟเตือนบนเครื่องชาร์จควรเป็นสีเขียว

ปิดสวิทช์, เบรคเกอร์

ถอดสายระหว่างเครื่องชาร์จ กับ แบตเตอรี่
คำเตือน: ให้ดึงที่ปลั๊กเท่านั้น ห้ามใช้วิธีดึงที่สายไฟโดยเด็ดขาด

ตรวจและเติมน้ำกลั่น ให้อยู่ในระดับที่ถูกต้อง หรือ สูงกว่าแผ่นธาตุ 1-2 ซม.
คำเตือน: ห้ามเติมน้ำกลั่นสูงเกินไป

เช็ดทำความสะอาดด้านบนของแบตเตอรี่ และเริ่มใช้งาน

เปลี่ยนแบตเตอรี่หรือนำแบตเตอรี่ไปชาร์จไฟเมื่อมิเตอร์บนหน้าปัทม์แสดงสีส้ม หรือลดระดับลงเหลือขีดที่ 2-3
คำเตือน: การฝืนใช้แบตเตอรี่เมื่อมิเตอร์บนหน้าปัทม์รถแสดงสีแดง หรือลดระดับลง เหลือขีดที่ 2 จะทำให้แบตเตอรี่อายุสั้นลงอย่างรวดเร็ว

ช่วงเย็นหรือหลังเลิกงาน

ขับรถไปจอดใกล้เครื่องชาร์จ(กรณีชาร์จบนรถ) เพื่อสะดวกและง่ายในการยกแบตเตอรี่  เข้าออก(กรณียกแบตเตอรี่ออกชาร์จ)

3-2

คำเตือน: บริเวณที่ชาร์จแบตเตอรี่ต้องเป็นสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทได้ดีไม่มีประกายไฟ และไม่ควรมีแสงแดดส่องถึง

ดับสวิทช์กุญแจที่ตัวรถ

เปิดฝาครอบแบตเตอรี่ เพื่อให้แก๊สที่เกิดขึ้นระหว่างการชาร์จออกได้สะดวก
คำเตือน: เช็คระดับน้ำกลั่นทุกครั้งก่อนชาร์จ น้ำกลั่นต้องไม่ต่ำกว่าแผ่นธาตุ หรือแผ่นธาตุต้องไม่โผล่พ้นระดับน้ำ วัดอุณหภูมิน้ำกรดของแบตเตอรี่ ถ้าอุณหภูมิสูงเกิน 50องศาเซลเซียส ห้ามทำการชาร์จ ให้รอจนอุณหภูมิลดลงจนถึงประมาณ 40องศาเซลเซลเซียส จึงเริ่มทำการชาร์จ. การชาร์จแบตเตอรี่ทันทีหลังจากเพิ่งเลิกใช้งานและขณะที่แบตเตอรี่ร้อนมากจะทำให้แบตเตอรี่อายุสั้นลงอย่างรวดเร็ว.

เสียบสายเครื่องชาร์จเข้ากับสายแบตเตอรี่

เปิดสวิทช์เบรคเกอร์

ให้ตรวจเช็คไฟเตือนที่เครื่องชาร์จทุกครั้ง ว่าเครื่องชาร์จทำงานเป็นปกติก่อนที่จะเลิกงาน.  ไฟสีแดงต้องสว่าง (เครื่องชาร์จบางรุ่นเป็นไฟสีเหลือง)

การปฎิบัติงานประจำสัปดาห์

1. ตรวจสอบระดับน้ำกรดในแบตเตอรี่ต้องสูงกว่าแผ่นกั้นและแผ่นธาตุเสมอ


ภาพแสดงระดับลูกลอยที่น้ำกรดอยู่ในระดับพอดี และ ระดับต่ำ

คำเตือน :

  • ถ้าระดับน้ำกรดต่ำให้เติมด้วยน้ำกลั่นบริสุทธิ์เท่านั้น ห้ามเติมน้ำกรด,น้ำประปา, น้ำโซดาเป็นต้น,
  • ถ้าชาร์จแบตเตอรี่ที่มีระดับน้ำสูงมาก, น้ำกรดจะไหลล้นออกจากแบตเตอรี่และกัดกร่อนถังแบตเตอรี่ จะทำให้กระแสไฟรั่ว ประสิทธิภาพและอายุการใช้งาน น้อยลง
  • ถ้าน้ำล้นออกจากแบตเตอรี่บ่อยๆ จะต้องปรับความเข้มข้นน้ำกรดในแบตเตอรี่ให้อยู่ในค่าที่ถูกต้อง (1.280 +/-0.010)

ข้อควรจำ: ถ้าใช้น้ำที่ไม่ใช่น้ำกลั่นบริสุทธิ์ เติมลงในแบตเตอรี่ จะทำให้แบตเตอรี่เสื่อมลงอย่างรวดเร็ว

2. ให้ปรับระดับน้ำในแบตเตอรี่หลังจากสิ้นสุดการชาร์จ

คำเตือน : การเติมน้ำกลั่นสูงเกินไปจะทำให้น้ำกรดล้นในการชาร์จครั้งต่อไป

3. ตรวจสอบจุดต่อสะพานไฟ สายไฟ ขั้วสายไฟ ถ้าพบข้อเสียหายต้องรีบแก้ไขทันทีก่อนนำไปใช้งาน และทาวาสลีนป้องกันคราบน้ำกรด
หลังจากตรวจสอบแล้วให้ปิดฝาเติมน้ำกลั่น ฝาครอบสะพานไฟและฝาครอบสายไฟ ล้างแบตเตอรี่ด้วยแปรงพลาสติกและน้ำร้อน (ถ้าสกปรกมาก) แล้วเช็ดหรือเป่าลมให้แห้ง ควรใส่แว่นเพื่อป้องกันน้ำกรดกระเด็นเข้าตา

การปฎิบัติประจำเดือน
  1. ตรวจสอบแบตเตอรี่เพื่อปรับสภาพแบตเตอรี่ โดยการวัดแรงดัน (โวลล์)ต่อเซล, แรงดันรวม, ความถ่วงจำเพาะ, และ  อุณหภูมิ ของน้ำกรด ก่อนชาร์จแบตเตอรี่
  2. ชาร์จแบตเตอรี่จนไฟเต็ม พร้อมควบคุมอุณหภูมิน้ำกรด โดยการวัดอุณหภูมิแบตที่เซลกลางๆ อุณหภูมิต้องไม่สูงเกิน 50 องศาเซลเซียส ปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30 องศาเซลเซียส
    คำเตือน : ถ้าอุณหภูมิระหว่างชาร์จสูงเกินไปจะทำให้แบตเตอรี่เสียหาย และเสื่อมสภาพเร็วขึ้น
  3. วัดแรงดัน(โวลล์)ต่อเซล, แรงดันรวม, ความถ่วงจำเพาะ, และอุณหภูมิ ของน้ำกรด ทุกๆครึ่งชั่วโมง ระหว่างชาร์จ
    และบันทึกค่า จนเครื่องชาร์จ ชาร์จเสร็จ
  4. นำค่าความเข้มข้นน้ำกรด,โวลล์ และอุณหภูมิ ที่บันทึกไว้มาพิจารณา ถ้าค่าที่วัดได้ในแต่ละเซลแตกต่างกันมาก ต้องนำแบตไปชาร์จแบบ Equalizing เพื่อปรับให้สภาพแต่ละเซลมีสภาพเท่ากันทุกเซล (ความแตกต่างมากน้อยขึ้นอยู่กับอายุของแบตเตอรี่)
  5. ตารางด้านล่าง เป็นค่าแนะนำเบื้องต้น ของความสัมพันธ์ ระหว่าง ความเข้มข้น โวลล์ และอุณหภูมิ ค่าปกติจะใช้ที่ 30องศา
    ค่าความถ่วงจำเพาะและ โวลล์จะสูงขึ้นเมื่อ อุณหภูมิต่ำลง

อุณหภูมิ °C

ความถ่วงจำเพาะ

แรงดัน (Volt)

0

1.294

2.144

20

1.280

2.130

30

1.273

2.123

50

1.259

2.109